ขอขอบคุณ http://www.siampod.com
รูปร่างหน้าตา


สำหรับของที่ให้มาในกล่องนอกจากตัวเครื่องแล้วก็มีแค่สาย USB, อแดปเตอร์ชาร์ตไฟบ้าน ส่วนคู่มือ (แต่อย่าเรียกคู่มือเลยดีกว่า) มีมาให้เป็นแผ่นพับ ส่วนเล่มจริงต้องดาวน์โหลดเอาเองจากเว็บแอปเปิ้ล แต่จริง ๆ แล้วแอปเปิ้ลได้ซ่อนคู่มือ iPad ไว้ให้ในเครื่องแล้วใน Safari โดยมีการตั้งค่าบุ๊คมาร์คหน้าเว็บ iPad User Guide ไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งพอกดเข้าไปก็ถือว่าแอปเปิ้ลเตรียมส่วนนี้มาดีทีเดียว แต่ใครจะรู้ว่าแอปเปิ้ลเตรียมมาให้แบบนี้ ?
รับซื้อ iPod iPhone iPad BB PSP NDSL โน้ดบุ้ค MP3 อุปกรพกพาต่างๆ
ร้อนเงิน อยากขายอยากเปลี่ยนรุ่น มาทางนี้ครับ ผมรับซื้อครับ
รับซื้อ iPod iPhone iPad BB PSP NDSL โน้ดบุ้ค MP3 mp4 กล้อง อุปกรพกพาต่างๆ ทุกชนิด
ทุกรุ่น ทุกเจน ทุกสภาพ ของครบ ไม่ครบ เรารับซื้อหมดนะครับ
ใช้งานปกติ/ไม่ปกติ สภาพภายนอกยังไงแบบใหน
ร้อนเงิน อยากขายอยากเปลี่ยนรุ่น มาทางนี้ครับ ผมรับซื้อครับ
รับซื้อ iPod iPhone iPad BB PSP NDSL โน้ดบุ้ค MP3 mp4 กล้อง อุปกรพกพาต่างๆ ทุกชนิด
ทุกรุ่น ทุกเจน ทุกสภาพ ของครบ ไม่ครบ เรารับซื้อหมดนะครับ
ใช้งานปกติ/ไม่ปกติ สภาพภายนอกยังไงแบบใหน
บอกราคาที่อยากขายมาได้
โทรมาคุยได้ 08-0055-2124 อิฐ เจ้าเก่า
นัดรับใน กทม.
สถานที่นัดไกล้-ไกลคุยกันได้
ราคาแล้วแต่ต้องการครับ
โทรมาคุยได้ 08-0055-2124 อิฐ เจ้าเก่า
นัดรับใน กทม.

ราคาแล้วแต่ต้องการครับ
โทรมาคุยราคาได้เลยอยากได้เท่าไรว่ามาเลยครับ
สามารถเสนอราคาเองได้เลยนะครับ ราคาคุยกันได้เลย คุยง่ายคับ
ปล.รับเรี่อยๆ รับตลอด นะครับ เสนอเข้ามาได้เลยครับ
สามารถเสนอราคาเองได้เลยนะครับ ราคาคุยกันได้เลย คุยง่ายคับ
ปล.รับเรี่อยๆ รับตลอด นะครับ เสนอเข้ามาได้เลยครับ
ไม่ต่างกับ การใช้งานบน iPhone หรือ iPod touch เพียงแต่เราจะรู้สึกแปลก ๆ ที่หน้าจอใหญ่ขึ้นแบบชนิดที่เรียกว่าพอกลับไปใช้ iPhone หรือ iPod touch จะรู้สึกได้เลยทันทีว่าทำไมจอ iPhone มันเล็กจังทั้ง ๆ ที่ก่อนจะมี iPad จอ iPhone ก็ปกติอยู่ดี ๆ แต่ไหงพอมี iPad แล้วเหมือนจอ iPhone มันหดลง :)
ด้านความเร็วของตัวเครื่องถ้าใช้งานทั่วไปเช่นการเปิดเว็บ, เช็คอีเมลหรือเปิดแอพฯ Facebook ฯลฯ ไมต่างจากการใช้งานบน iPhone 3GS สักเท่าไหร่ ความแรงและเร็วของซีพียู A4 ของ iPad จะเห็นได้ชัดจากการเปิดเล่นเกมที่ “เร็วปรี๊ด” กว่าบน iPhone 3GS แบบสังเกตได้ชัด ที่เคยๆพูดว่า iPhone 3GS ประสิทธิภาพดีกว่า iPhone 3G สองเท่า คงต้องเปลี่ยนใหม่เป็น iPad ประสิทธิภาพดีกว่า iPhone 3GS สองเท่าแล้วล่ะด้านการจับถือและน้ำหนักมีหลายคนถามเข้ามาว่าจับมือเดียวถนัดหรือไม่ ถนัดครับแต่ต้องแน่นในระดับหนึ่งถือถ้าจับแบบหลวม ๆ มีิสิทธิที่เครื่องจะหล่นได้เพราะตัวเคื่องบางพอควรทำให้ตัวเครื่องไม่ได้ อยู่ในอุ่งมือเต็มที่และน้ำหนักของเครื่องที่อาจทำให้เครื่องหล่นจากมือได้ ส่วนการจับถือสองมือไม่ว่าจะแนวตั้งหรือแนวนอนกระชับดีด้วยความที่ด้านหลัง เป็นโค้งแบบหลังเต่าคล้ายกับ iPhone 3GS ทำให้เวลาสอดมือเพื่อถือเครื่องปลายนิ้วจะไปถึงหรือเกือบถึงโลโก้แอปเปิ้ล ด้านหลังเครื่อง ซึ่งเป็นจุดที่กระชับที่สุดในการถือเครื่อง
สำหรับน้ำหนัก 680 กรัม ถ้าดูจากตัวเลขเหมือนจะเบา ซึ่งก่อนได้เครื่องมาคิดเอาเองว่าคงไม่มีปัญหาในการจับถือมือเดียว แต่เอาเข้าจริงน้ำหนักขนาดนี้เป็นปัญหาในการมือถือเดียวเวลาอ่านหนังสือเยอะ เหมือนกัน ซึ่งทำให้ผมถึงบางอ้อที่เห็นในวิดีโอสาธิตการใช้ iPad ในเว็บแอปเป้ิลว่าทำไมต้องวางไว้ที่หน้าขาทุกครั้งที่เห็นจากในวิดีโอ
มีอะไรแปลกใหม่เพิ่มเข้ามาบ้าง ?
Photos สำหรับหน้าตาใน Photos มีการเปลี่ยนแปลงให้ดูหวือหวาขี้นกว่าบน iPhone/iPod touch นิดหน่อย แต่เมื่อได้ใช้งานจริง ๆ ก็ยังไม่ได้มีฟีเจอร์ที่เรียกว่าใหม่จริง ๆ เพิ่มเข้ามาแต่อย่างใด
Maps อันนี้เห็นชัดว่าทำงานได้รวดเร็วตั้งแต่เปิดใช้งาน การเรนเดอร์ภาพแผนที่ทำเร็วกว่าบน iPhone 3GS อย่างเห็นได้ชัด หน้าตาและการวางปุ่มต่าง ๆ แตกต่างไปจากที่เคยใช้บน iPhone 3GS ไปบ้าง การนำทาง (Direction) ทำได้ดีขึ้น (ดูวิดีโอประกอบ)

สำหรับหน้าตาเมื่อเข้ามาใน YouTube จะมีความใกล้เคียงกับการใช้งานผ่านหน้าเว็บมากขึ้น สำหรับการเล่นไฟล์วิดีโอแบบ HD ใน YouTube บน iPad ไม่ได้มีอะไรบ่งบอกว่าไฟล์ที่เล่นแบบ HD หรือไม่ แต่เท่าที่ได้ทดลองถ้าไฟล์นั้นมีแบบ HD ด้วย ตัว YouTube จะทำการเลือกไฟล์วิดีโอที่เป็นแบบ HD ให้เองโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่สามารถเลือกเองได้ว่าจะดูวิดีโอนั้นแบบ HD หรือแบบอื่น ๆ ที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อให้ทำการสตรีมมิ่งได้เร็วกว่าได้ สำหรับการดูวิดีโอใน YouTube ส่วนถ้าเจอพวกวิดีโอขนาดเล็ก ๆ พอขยายเต็มจอไม่เหลือครับ ไฟล์จะดูแตก ๆ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าต้นฉบับที่อัพโหลดขึ้นไปเล็กหรือใหญ่แค่ไหน




App Store / iTunes ด้วยความที่ปัจจุบัน iPad ขายแต่ในอเมริกาประเทศเดียวทำให้การใช้งานในสองส่วนนี้บน iPad จะต้องเป็นสมาชิกของ App Store (US) เพียงอย่างเดียว แต่พวกแอพฯทั้งหลายที่เราเคยดาวน์โหลดจาก App Store (TH) ก็ยังสามารถซิงค์เข้า iPad ผ่านทาง iTunes ได้ปกติ


การนำแอพฯสำหรับ iPhone มาเปิดบน iPad
เราสามารถนำแอพฯ สำหรับ iPhone / iPod touch ที่เราเคยดาวน์โหลดมาแล้วไม่ว่าจะมาจาก App Store (TH) หรือ App Store อื่นมาลงใน iPad ได้ปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือเมื่อเปิดมาใช้งานครั้งแรกหน้าจอของแต่ละแอพฯช่างเล็ก จิ๋วเสียเหลือเกิน ซึ่งแอปเปิ้ลได้เตรียมปุ่มขยายหน้าจอ 2 เท่ามาให้เพื่อขยายหน้าต่างของแอพฯให้ใหญ่เกือบเต็มจอ ซึ่งสิ่งที่ตามมาสำหรับการขยายใหญ่ 2 เท่าก็คือความละเอียดของแอพฯห่วยเป็นที่สุด ทั้งภาพกราฟฟิคแลตัวหนังสือแตก ๆ (แต่ก็อ่านรู้เรื่องอยู่บ้าง) ซึ่งถ้าไม่ซีเรียสมากในการใช้แบบนี้เราสามารถใช้งานแอพฯ ต่าง ๆ ได้ปกติ สำหรับบางแอพฯที่พอนำมาลงใน iPad แล้วรู้สึกว่าเล่นบน iPhone สนุกกว่าอย่างเช่นเกม Street Fighter IV ที่เวลาโยกจอยเสมือนบนหน้าจอ iPad รู้สึกว่าไม่ได้อย่างใจเหมือนที่เล่นบน iPhone (ดูวิดีโอด้านล่างประกอบ)
โดยรวมเรื่องการเปิดแอพฯสำหรับ iPhone บน iPad นั้นถ้าคุณผู้อ่านใช้ iPhone หรือ iPad touch มาก่อนหน้านี้อยู่แล้วคงทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยมี iPhone / iPod touch ในครอบครองมาก่อนแนะนำให้ดาวน์โหลดแอพฯสำหรับ iPad โดยเฉพาะหรือแอพฯที่เป็นแบบยูนิเวอร์แซลมาให้งานเพื่อไม่ให้เซ็งกับการเจอ หน้าจอเบลอ ๆ เมื่อใช้แอพฯ สำหรับ iPhone มาเปิดบน iPad
ด้านการอ่านหนังสือ





แล้ว iBooks รองรับการอ่านหนังสือภาษาไทยหรือไม่ ?


สำหรับในส่วนของการอ่านหนังสือภาษาไทยจากการแปลงไฟล์ PDF นี้สรุปได้ขอให้ต้นฉบับที่เป็น PDF เป็นตัวหนังสือมาอย่างเดียวดีที่สุด เพราะถ้าในไฟล์ PDF ถ้ามีรูปอยู่ด้วย เช่นมีภาพพื้นหลังมาด้วยเวลาแปลงไฟล์เป็น ePub ตัวภาพพื้นหลังจะติดมาด้วยทำให้เวลาที่อ่าน ๆ ไปจะมีรูปมารบกวนทุกหน้าไป
แปลงนิตยสารแบบ PDF เป็น ePub ?

สรุปสำหรับในส่วนของการอ่านหนังสือถ้าเป็นหนังสือภาษาอังกฤษไม่มีปัญหา เพราะตัวเครื่องรองรับแบบเต็มเหนี่ยวอยู่แล้ว ส่วนการอ่านหนังสือภาษาไทยเท่าที่ลองแม้จะเป็นหนังสือที่มีแต่ตัวอักษรเพียว ๆ ก็ยังมีผิดเพี้ยนอยู่บ้างเช่นเรื่องการเคาะวรรค, ช่องไฟระหว่างตัวอักษร ทั้ง ๆ ที่ต้นฉบับ PDF แสดงผลถูกต้อง แต่ก็ถือว่ายังสามารถอ่านได้ปกติ ส่วนการนำนิตยสารไฟล์ PDF หรือไฟล์ PDF ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ มาแปลงเป็น ePub ไม่แนะนำเพราะจะผิดเพี้ยนจนไม่สามารถอ่านได้ ทางออกคือให้ใช้โปรแกรมที่รองรับการเปิดไฟล์ PDF ช่วยในเรื่องนี้

หัวข้อนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมเองอยากรู้ที่สุดว่าถ้าเราจะใช้ iPad ทำงานที่เราเคยทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น iPad จะทดแทนได้สักกี่เปอร์เซ็นต์
(กลุ่มแอพฯ iWork มีด้วยการ 3 แอพฯ ได้แก่ Pages, Keynote และ Numbers ต้องซื้อเพิ่มแอพฯละ $9.99)
Pages





Keynote
สำหรับ Keynote ถ้าดูแค่ที่สตีฟ จ๊อบส์เคยสาธิตให้ดูนั้นขอบอกว่าว้าวๆมาก ซึ่งพอได้ใช้งานจริงยอมรับเลยว่าต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่หรือเรียก ว่าละลายพฤติกรรมการทำงานแบบเดิมที่เคยใช้บนเครื่อง Mac ทิ้งไปได้เลย




เรื่องคีย์บอร์ดทั้งบนจอและแยกต่างหาก


คึย์บอร์ดบนหน้าจอทั้งแนวตั้งและแนวนอน
สำหรับเรื่องคีย์บอร์ดบน iPad ที่ในปัจจุบันยังไม่มีภาษาไทยเข้ามานั้น ทำให้หลัก ๆ เราก็จะใช้แค่คีย์บอร์ดภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว สำหรับความรู้สึกที่ได้ใช้คีย์บอร์ดเสมือนแบบมหึมาบนหน้าจอ iPad แปลก ๆ ไปบ้างจากบน iPhone เพราะจ้องแต่จะเตรียมท่าพิมพ์วาง 4 นิ้วบนคีย์บอร์ดท่าเดียว แต่ถ้าทำแบบนั้นก็พิมพ์ไม่ได้พอดีเพราะวางนิ้วลงไปปั๊บก็เท่ากับกดปุ่มใด ๆ ทันที ทำให้ท่าทางการวางนิ้วต้องยกมือลอยเหนือคีย์บอร์ดอยู่เล็กน้อย ระยะการก้าวนิ้วผมลองวัดระยะห่างระหว่างแป้นพิมพ์ระหว่างตัวอักษรบนหน้าจอ แนวนอนกับบนคีย์บอร์ดจริง ๆ บน MacBook พบว่าเป็นระยะห่างเดียวกันทำให้ถ้าใครที่คุ้นเคยกับการพิมพ์แบบปกติก็จะ สามารถก้าวนิ้วได้เหมือนกับบนเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่แม้จะมีระยะก้าวนิ้วเหมือนบนเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ตามเวลาใช้งานจริงก็ยัง มีพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกอยู่บ้าง เลย์เอาท์คีย์บอร์ดบน iPad แม้ว่าจะเใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดบนเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วก็ตามแต่ก็ยังมีติด ขัดอยู่ดีเช่นจังหวะการพิมพ์ตัวเลขหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ต้องมาจิ้มคีย์บอร์ดเพื่อเปลี่ยนเป็นหน้าตัวเลขและสัญลักษณ์ต่าง ๆ การเปลี่ยนภาษาในกรณีที่มีการเพิ่มภาษาเป็นลักษณะเดียวกับคีย์บอร์ดบน iPhone คือต้องกดที่แป้นรูปลูกโลกเพื่อเปลี่ยนภาษา สรุปว่าการพิมพ์จากหน้าจอสะดวกประมาณหนึี่งเนื่องจากจิ้มตัวอักษรได้ง่าย แต่ไม่เหมาะกับการพิมพ์แบบต่อเนื่องนาน ๆ
เชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด Apple Wireless Keyboard ผ่านทาง Bluetooth ได้

มีหน้าต่างเวลาที่กดสลับภาษาเวลาที่ใช้คีย์บอร์ดแยกต่างหาก
การต่อกับคีย์บอร์ดผ่านทาง Bluetooth ผมทดลองกับ Apple Wireless Keyboard การเชื่อมต่อทำได้ไม่ยาก ด้านการใช้งานเมื่อเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยเวลาพิมพ์งานต่าง ๆ เช่นใน Pages จะไม่มีคีย์บอร์ดเสมือนบนหน้าจอปรากฏขึ้นมาแต่อย่างใด ปุ่มควบคุมต่าง ๆ บน Apple Wireless Keyboard เท่าที่ใช้กับ iPad ได้ก็มีปุ่มปรับระดับแสงหน้าจอ, ปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Play/Puase, Back/Forward (ใช้ได้เมื่อเปิด iPod ฟังเพลง) ส่วนการกดเปลี่ยนภาษาสามารถใช้การกดปุ่ม Command+Space Bar ได้ซึ่งทำให้การใช้งานมีความรวดเร็วมากขึ้น ส่วนด้านการพิมพ์จากคีย์บอร์ดแท้ ๆ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก เพราะผู้อ่านคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ใครที่ต้องการพิมพ์เอกสารต่อเนื่องนาน ๆ แนะนำว่าต่อกับ Apple Wireless Keyboard สะดวกกว่ากันเยอะ (ดูวิดีโอด้านล่างประกอบ)แบตเตอรี่
สำหรับเรื่องแบตเตอรี่ “ประทับใจมาก” ในการทดสอบผมพยายามใช้งานเหมือนเป็นปกติเหมือนที่เคยใช้บน iPhone เช่นการเปิดดูข่าวจากเว็บต่าง ๆ บ้าง, เปิดแอพ twitter และ facebook เพื่อใช้งานเป็นครั้งคราวตลอดระยะเวลาที่ทดสอบ, เปิดดู YouTube ต่อเนื่องเป็นบางช่วง, อีเมลเช็คตลอดเวลา (เปิด Push Notification ไว้ด้วย), เปิดอ่านหนังสือจาก iBooks บ้างนิดหน่อยม มีช่วงที่ต้องออกไปทานอาหารบ้าง และอื่น ๆ ที่เคยทำเป็นปกติ คือไม่เร่งโหมในการทดสอบเรื่องแบตเตอรี่ พบว่าการชาร์ตแบตเตอรี่หนึ่งครั้งผมสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ได้ถึง 15 ชั่วโมง (100% > 15% / ตั้งแต่บ่ายสามโมงถึงหกโมงเช้าวันถัดไป) แน่นอนว่าระยะเวลาการใช้งานข%B
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น