เพิ่ง ได้รับของเมื่อเช้าก็แกะกล่องมาให้ชมกันก่อนเลยครับกับ iPod nano รุ่นล่าสุด 2010 ซึ่งก็เป็นรุ่นที่ 6 แล้วสำหรับ iPod nano ที่เปลี่ยนรูปร่างหน้าตามาตามแต่ละรุ่น ซึ่งหน้าตาในรุ่นนี้ผมว่าเหมือน iPod shuffle รุ่นก่อนที่เป็นลักษณะตัวเครื่องเป็นคลิบหนีบ ตัดส่วนของ Click Wheel ออกไปแต่เพิ่มหน้าจอสัมผัสเข้ามาแทนเพื่อให้คุณควบคุมการเล่นเพลงด้วยปลาย นิ้ว ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่า iPod nano รุ่นเดิมมาก ตัดส่วนของกล้องวิดีโอและการเล่นวิดีโอออกไป
 
อยากขาย ipod มาทางนี้ครับ ผมรับซื้อครับ ติดต่อ 08-0055-2124 อิฐ
รับซื้อ ipod touch Nano
Shuffle Classic VDO photo B/W เสียก็รับ ซื้อหมด ให้ราคาสูง 
เจนไหนก็ได้ ก็ได้ รับหมด ใช้งานปกติ สภาพภายนอก ok เสนอราคามาสนใจโทรกลับ

ติดต่อ 08-0055-2124 อิฐ นัดรับในเขต กทม. :-*
 ราคาแล้วแต่ต้องการครับ โทรมาคุยราคาได้เลยอยากได้เท่าไรว่ามาเลยครับ
สามารถเสนอราคาเองได้เลยนะครับ ราคาคุยกันได้เลย คุยง่ายครับ
รับซื้อตลอดเวลานะครับ โทรเข้ามาได้เลยครับ
รวมถึง รับซื้อ Notebook Netbook เครี่องเล่นเกม PSP NDS NDSL PS2 เราก็ รับซื้อ ด้วยครับ

ขอบคุณ http://gadget4thai.com/

เริ่ม จากแกะกล่องเลยนะครับ ตัวกล่องมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าตัว iPod nano เท่าไหร่ ยังกับกล่องแหวนน่ารักดีครับ ภายในก็มีตัวเครื่อง iPod nano สายชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล คู่มือการใช้งานเบื้องต้น และหูฟัง Stereo

ตัว เครื่อง iPod nano นี่เล็กสมชื่อจริงๆ โดยมีขนาดเล็กเพียง 37.5 x 40.9 x 8.78 mm และหนักเพียง 21.1 กรัมเท่านั้น หน้าจอมีขนาด 1.54 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล มีขนาดความจุให้เลือกใช้งานสองขนาดคือ 8GB ราคา 5,400 บาท และ 16GB ราคา 6,600 บาท สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นที่แล้วนอกจากหน้าตาและขนาดตัวเครื่องแล้ว รุ่นใหม่ไม่สามารถเล่นไฟล์วิดีโอได้ (มีข่าวลือว่าอาจจะสนับสนุนได้ในอนาคต แต่ใครจะมานั่งดูวิดีโอจากจอเล็กๆ ละ ถ้าต่อออกจอภายนอกก็ว่าไปอย่าง) ตัวส่วนของกล้องวิดีโอออกไป แล้วปุ่ม Click Wheel ซึ่งทำให้สามารถย่อตัวเครื่องลงมาได้เล็กลง โดยเปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบสัมผัสในการควบคุมการเล่นเพลงแทน แต่ถึงจะมีขนาดเล็กลง แต่ความสามารถหลายอย่างก็ยังและถูกใส่เข้ามาเพิ่มเช่น
- ระบบ Accelerometer ที่ให้คุณเขย่าตัวเครื่องเพื่อเปลี่ยนเพลง
- Genius Mix เหมือนเป็น DJ ส่วนตัวที่คอยเลือกเพลงให้คุณฟัง
- FM Radio ที่ใช้งานคู่กับหูฟัง ให้คุณฟังวิทยุได้ด้วย นอกจากเพลงในเครื่อง
- Nike+ มีตัวรับสัญญาณกับอุปกรณ์เสริม Nike+ ในตัว ให้คุณเก็บสถิติการออกกำลังกายได้ในตัว
- หน้าตาเมนูการใช้งานแบบเดียวกับ iOS ที่สามารถจัดแต่งเมนูตามที่คุณต้องการได้ พร้อมโปรแกรมเสริมเช่นนาฬิกา (น่าจะมีเครื่องคิดเลขมาให้อีกตัวนะ :-P )


ด้านบนจะเป็นปุ่มเร่งลดเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง

ด้านล้างเป็นช่อง Dock Connector และช่องสำหรับเสียบหูฟัง

ถึงแม้ ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กลงมาก แต่ต้องขอบคุณ Apple ที่ยังคงใช้ Dock Connector แบบเดิม ทำให้เราสามารถนำ iPod nano ไปใช้กับอุปกรณ์เสริมเดิมๆ สำหรับ iPod ได้

เริ่ม การใช้งานโดยการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และเปิดโปรแกรม iTunes หลังจากลงทะเบียนตัว iPod เรียบร้อย iTunes ก็จะให้คุณตั้งชื่อเครื่องและเลือกเมนูภาษาที่จะใช้งาน iPod ซึ่งมีภาษาไทยด้วย

คราว นี้มาดูการใช้งานกันบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่า หน้าจอ iPod nano มีขนาดเล็กก็จริง แต่ก็ใช้งานได้สะดวก ถึงแม้จะมีนิ้วใหญ่เป็นพิเศษแบบผมก็ตาม อาจจะต้องทำความคุ้นเคยเล็กน้อย โดย iPod มีเมนูสำหรับเลือกเล่นเพลงให้คุณเลือกแล้วไม่ว่าจะเป็นการเลือกเล่นเพลงจาก Play list ที่คุณทำไว้แล้ว หรือจะเลือกจากชื่อศิลปิน Albums Songs Genes Composers หรือจะให้เครื่องเลือกมาให้ฟังจาก Genius Mixes เมื่อเลือกเพลงที่จะเล่นได้ เครื่องก็จะเล่นเพลงนั้นและแสดงหน้าปกของเพลงนั้นขึ้นมาให้ดู คุณสามารถแตะที่หน้าจอเพื่อเลือกดูรายละเอียดของเพลง เลือกเล่นเพลงถัดไปหรือก่อนหน้านี้ รวมทั้งตั้ง Rating ของเพลงนั้น ถ้าคุณเลือกเล่นตาม Albums เครื่องก็จะแสดงรายชื่อ Albums ในเครื่องพร้อมปกให้คุณเลือก สังเกตด้านขวาจะมีตัวหนังสือ A – Z# เพื่อให้คุณแตะเลื่อนไปตามตัวอักษรที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่มีระบบ Search และเนื่องจาก iPod nano ใหม่มีระบบ Accelerometer ที่ให้คุณเขย่าตัวเครื่องเพื่อเปลี่ยนเพลงได้ ตัวแบตเตอรี่นั้น Apple อ้างว่าสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้นานถึง 24 ชั่วโมง

iPod nano ไม่สามารถเล่นวิดีโอได้ เนื่องจากหน้าจอมีขนาดเล็กคงไม่สะดวกที่จะดูวิดีโอนัก แต่ยังคุณคุณสมบัติการเล่นภาพนิ่งได้ คุณสามารถเลือก Sync ภาพจาก iPhoto ในเครื่องได้ โดยโปรแกรมจะแสดงรายชื่อ Photo Albums ให้คุณเลือกดู หรือสั่งให้เล่นเป็น Slide Show ได้ ใครที่หนีบติดเสื้อแล้วเปิด Slide Show ไปก็เท่ไปอีกแบบนะครับ การควบคุมการเล่นภาพสามารถใช้นิ้วลากเลื่อนเพื่อเลื่อนภาพที่ต้องการ แตะสองครั้งเพื่อซูมเข้าไปในภาพได้หนึ่งระดับ แตะสองครั้งอีกที เพื่อเป็นการซูมออกมา คุณไม่สามารถใช้สองนิ้วขยายซูมภาพได้ แต่สามารถใช้สองนิ้วหมุนทั้งหน้าจอ หรือภาพก็ได้

การฟัง วิทยุบน iPod nano ใหม่ก็สะดวกดี สามารถเลือกให้เครื่องจูนหาคลื่นแบบอัตโนมัติ หรือจะเลื่อนแถบด้านล่างที่เป็นรูป scale คลื่นวิทยุ เพื่อไปยังคลื่นที่ต้องการแบบเร็วๆ ถ้าต้องการบันทึกคลื่นนั้นๆ ไว้ในรายการโปรดก็ทำได้โดยการกดปุ่มรูปดาวทางด้านซ้ายล่าง ส่วนปุ่มรูป i ทางด้านขวาล่างจะใช้เรียกเมนูเสริมขึ้นมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเมนูให้ scan หาคลื่นแบบอัตโนมัติ หรือรายชื่อคลื่นโปรด รงทั้งการตั้งค่าระบบ Live Pause ที่จะบันทึกบางส่วนของรายการวิทยุที่คุณกำลังฟัง และถ้าคุณต้องการย้อนกลับไปฟังก็สามารถทำได้

iPod nano มีโปรแกรม Voice Memo สำหรับบันทึกเสียง โดยจะบันทึกเสียงในระบบ stereo 128kbps AAC files ที่ 44.1kHz ซึ่งจะใช้เนื้อที่ 1MB ต่อ 1 นาที สามารถ sync บันทึกไปยัง iTunes Library บนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ รวมทั้งเลือกฟังและลบบันทึกที่ต้องการได้ โปรแกรมนาฬิกาก็เท่ดีครับ บางคนเอาไปติดกับสายรัดข้อมือ ทำให้ iPod nano กลายเป็นนาฬิกาข้อมือไฮเทคไปเลย โดยตัวโปรแกรมนาฬิกานอกจากจะแสดงเวลา ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้หน้าปัดสีดำหรือสีขาวแล้ว ยังสามารถใช้เป็นนาฬิกาจับเวลาได้ด้วย ส่วนการใช้งานคู่กับ Nike+ ซึ่งต้องติดตั้งตัวส่งสัญญาณที่รองเท้าก่อน ส่วนตัวรับสัญญาณนั้นติดตั้งไว้ในตัว iPod nano เรียบร้อยแล้ว โดยคุณต้องตั้งค่าน้ำหนัก โปรแกรมก็จะบันทึกสถิติการออกกำลังกายของคุณ รวมทั้ง calories ที่คุณเผาผลาญไป