Review รีวิว iPod Shuffle Gen3

ยิ่ง นับวันสินค้าไฮเทค ก็ยิ่งมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ล่าสุดอาร์ตตัวพ่ออย่างค่าย Apple ก็เข็นเครื่องเล่นเพลงพกพารุ่นล่าสุดอย่าง iPod Shuffle เข้าสู่ตลาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เราเองมองว่าตลาดเครื่องเล่นเพลงพกพา น่าจะตายไปเมื่อมือถือพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
อย่าง ไรก็ตามไม่ว่าค่าย Apple จะหยิบจับอะไร ก็ดูจะเป็นกระแสไปหมด ยิ่งเป็นเรื่องของเสียงเพลงด้วยแล้ว เชื่อขนมกินได้เลยถึงความดัง (แบบไม่ต้องสงสัยให้เมื่อยตุ้ม) ส่ิงที่เปลี่ยนแปลงไปจาก iPod รุ่นก่อนหน้านี้ก็คือเรื่องของขนาดที่ต้องบอกว่า “เล็ก” แบบชนิดที่เรียกได้ว่า “เล็กสะใจจริงๆ”

อยากขาย ipod มาทางนี้ครับ ผมรับซื้อครับ ติดต่อ 08-0055-2124 อิฐ
รับซื้อ ipod touch Nano Shuffle Classic VDO photo B/W เสียก็รับ ซื้อหมด ให้ราคาสูง 

เจนไหนก็ได้ ก็ได้ รับหมด ใช้งานปกติ สภาพภายนอก ok เสนอราคามาสนใจโทรกลับ

ติดต่อ 08-0055-2124 อิฐ นัดรับในเขต กทม.

 ราคาแล้วแต่ต้องการครับ โทรมาคุยราคาได้เลยอยากได้เท่าไรว่ามาเลยครับ
สามารถเสนอราคาเองได้เลยนะครับ ราคาคุยกันได้เลย คุยง่ายครับ
รับซื้อตลอดเวลานะครับ โทรเข้ามาได้เลยครับ

รวมถึง รับซื้อ Notebook Netbook เครี่องเล่นเกม PSP NDS NDSL PS2 เราก็ รับซื้อ ด้วยครับ

ขอบคุณ http://www.techxcite.com

Build & Design

การออก แบบเครื่องเล่นเพลงรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ต้องบอกว่า “เรียบง่าย” สุด กล่าวคือ ตัวเครื่องแทบจะไม่มีอะไรที่เกะกะรกหูรกตาแต่อย่างใด ขนาดตัวเครื่องนั้น เล็กพอๆ ข้อที่สองของนิ้วมือผู้ทดสอบ ซึ่งยอมรับตามตรงครับว่า มันเล็กแบบที่เหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แบบไม่มีเขอะเขิน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้มันเพื่อฟังเพลง เน้นว่าฟังเพลงเพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่ต้องการฟีเจอร์อื่นๆ เช่น การดูหนัง หรือท่องอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

ด้านบน ของตัวเครื่องจะมีเพียงปุ่มเปิดเครื่อง, ปุ่มเล่นเพลงตามลำดับ และปุ่มสลับเพลง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ iPod ทุกยุคทุกสมัย ถัดมาจะเป็นไฟแสดงสถานะในการใช้งาน (สีเหลืองสลับเขียว เพื่อแสดงให้ทราบว่าตอนนี้กำลังเปิดใช้งานอยู่) ส่วนอีกฝ่ังหนึ่งนั้น จะเป็นช่องเสียบหูฟังของ iPod (จากการทดสอบนำหูฟังที่มีหัวต่อขนาด 3.5 นิ้ว มาเสียบ ปรากฏว่าเสียงไม่ออกครับ ซึ่งหูฟังที่จะนำมาใช้ คุณควรทดสอบการใช้งานอีกครั้งก่อนซื้อครับ)



ด้าน หลังของตัวเครื่องจะมีคลิปสำหรับใช้หนีบกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ชายเสื้อ หรือขอบกระเป๋ากางเกง เป็นต้น เจ้าคลิปหนีบที่ว่านี้จะมีการสกรีนโลโก้ของ Apple ติดมาให้ด้วยครับ (สงสัยกลัวผู้ใช้ไม่รู้ว่า Apple ผลิตเองจริงๆ) ด้านใต้ของคลิปจะมีการสกรีนเลขรหัสและรายละเอียดต่างๆ ของตัวเครื่องเอาไว้ (อ่านแทบไม่ออก เพราะขนาดตัวอักษรเล็กมากๆ)
ด้วย การนำอลูมิเนียมอย่างดีมาใช้เป็นวัสดุในการออกแบบ ต้องยอมรับครับว่ามันช่วยให้เครื่องเล่นเพลงพกพารุ่นนี้ดูดีมีชาติตระกูล ขึ้นกว่ารุ่นเดิมๆ เยอะทีเดียว โดยสีสันที่มีให้เลือกใช้ก็คือ สีเงินและสีดำ โดยขนาดความจุมีเพียงขนาดเดียวคือ 4GB เท่านั้น (ใส่เพลงได้ประมาณ 1,000 เพลงครับ)

การใช้งาน

ในการ ใช้งานนั้น ในกล่องจะมีสายสำหรับใช้ซิงค์ข้อมูลต่างๆ มาให้ด้วย โดยสายที่ให้มานั้น มีขนาดที่ “สั้น” มาก (ไม่รู้จะสั่นไปถึงไหน) ทำให้การเสียบเข้ากับโน้ตบุ๊คหรือพีซี ลำบากเล็กน้อย (โดยเฉพาะหากเป็นพีซีที่ต้องเสียบเข้ากัับพอร์ต USB ทางด้านหลัง) ซึ่งเมื่อเสียบสายซิงค์และเปิดโปรแกรมคู่บุญอย่าง iTunes แล้ว สิ่งที่คุณจะต้องทำนอกจากการถ่ายโอนเพลง ก็คือฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า “VoiceOver” โดยฟีเจอร์นี้เอง ที่ถูกนำมาใช้เป็นสโลแกน “เล็กสุด พูดได้” กล่าวคือ เครื่องเล่นเพลงพกพาสุดจิ๋วอย่าง iPod Shuffle นั้น จะสามารถบอกชื่อเพลงและชื่อนักร้อง รวมถึงเปิดโอกาสให้คุณเลือก Playlists ภายในตัวเครื่องได้เองอัตโนมัติ




โดยใน การซิงค์ภาษาผ่านระบบ VoiceOver นั้น จะมีให้เลือกทั้งสิ้น 14 ภาษา (แน่นอนว่ายังไม่มีภาษาไทยให้เลือกครับ) ซึ่งภาษาหลักๆ ที่เชื่อว่าคนไทยน่าจะใช้มากที่สุด ก็คือเป็น English หรือภาษาอังกฤษนั่นเอง ดังนั้น ชื่อเพลง หรือเพลงที่คุณจะนำมาใส่ในเครื่อง ก็ควรเป็นเพลงสากลครับ หรือหากต้องการให้เครื่องอ่านเพลงไทย คุณก็จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเพลงจากภาษาไทยให้เป็นภาษาอังกฤษ (เช่น เปลี่ยนเป็นชื่อที่คุ้นเคย หรือไม่ก็เป็นภาษาคาราโอเกะไปเลย เป็นต้น) ไม่อย่างนั้น ระบบ VoiceOver จะไม่สามารถอ่านภาษาไทยของเราออกได้ครับ จะกลายเป็นเพลงความเงียบเท่านั้น เมื่อคุณสั่งให้อ่านชื่อเพลง

การควบคุมเพลง

ในการ ควบคุมเพลงต่างๆ นั้น คุณสามารถทำได้ผ่านตัวควบคุมซึ่งติดตั้งอยู่บนชุดหูฟัง (เมื่อใช้งานจริง จะอยู่บริเวณใกล้ๆ กับแก้มขวาของคุณ) โดยส่วนของรีโมตนี้จะแยกออกเป็น 3 ปุ่มย่อยๆ คือ ปุ่มลดเสียง เพิ่มเสียง และปุ่ม Play/Pause (กดตรงกลาง) เท่านั้น อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันมีฟีเจอร์ VoiceOver เพ่ิมเข้ามา ส่งผลให้ปุ่ม Play/Pause ยังถูกใช้เป็นปุ่มอื่นๆ ด้วย กล่าวคือ หากคุณกดปุ่มดังกล่าวติดต่อกัน 2 ครั้ง จะเป็นการเล่นเพลงถัดไป ส่วนการกด 3 ครั้งติดต่อกัน จะเป็นการเล่นเพลงก่อนหน้าครับ
หากกด ปุ่ม Play/Pause แช่ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จะเป็นการสั่งให้เครื่องอ่านชื่อเพลงและชื่อศิลปินให้ฟัง แต่หากกดแช่ไว้นานกว่านั้น จะเป็นการอ่าน Playlists ให้ฟัง ซึ่งหากในเครื่องของคุณมีหลาย Playlists ก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้เล่น Playlists ใดได้อีกด้วย (หากเลย Playlists ที่ต้องการฟังไปแล้ว ให้กดปุ่มเพิ่มหรือลดเสียง เพื่อเลือก Playlists ที่ต้องการครับ)
สำหรับ การไล่ลำดับนั้นจะเริ่มจากการรัน Playlists ของ All Songs หรือเล่นทุกเพลง แล้วตามด้วยรายชื่อตัวอักษร A ถึง Z ก่อนจะเป็นตัวเลข ทั้งนี้การอ่าน Playlists นั้น จะไม่มีการอ่านรายชื่อเพลงทั้งหมดให้ฟังนะครับ จะทำได้เพียงแค่อ่านทีละรายชื่อขณะที่ฟังอยู่เท่านั้น

ระดับเสียง

ระดับ เสียงของ iPod Shuffle นั้น สามารถเพิ่มและลดได้ทั้งสิ้น 30 ระดับด้วยกัน โดยหากต้องการลดเสียงจนสุด (เมื่อเปิดดังสุด) จะต้องกดปุ่มลดเสียงค้างไว้อย่างน้อย 6-7 วินาทีครับ (ถือว่าเร็วดีทีเดียว) ในส่วนของการตอบสนองต่อย่านความถี่ของเสียงนั้น ต้องยอมรับว่า Apple ยังคงไว้ลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากการทดสอบนั้น ผู้เขียนพบว่าคุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่ดีครับ โทนเสียงต่ำๆ ที่แม้ว่าจะไม่มีระบบเบสหนักๆ มาให้เหมือนหูฟังไฮโซ แต่ก็ไม่ถือกับขาดหายไปแต่อย่างใด ส่วนในย่านความถี่เสียงสูงๆ อาทิ เพลงโอเปร่านั้น หูฟังชุดนี้สามารถตอบสนองได้เป็นอย่างดีครับ

การถ่ายโอนข้อมูล

จากการ ทดสอบถ่ายโอนเพลงจำนวน 185 เพลง เข้าสู่เครื่อง (มีขนาดไฟล์ทั้งหมดประมาณ 700 MB) ปรากฏว่าใช้เวลาถ่ายโอนไฟล์ประมาณ 6 นาที ซึ่งถือว่าเร็วกว่า iPod Shuffle รุ่นก่อนหน้านี้พอสมควร (ประมาณ 1 นาที) ตรงนี้ก็ต้องบอกว่าน่าประทับใจอีกเช่นกันครับ

Conclusion

บทสรุป จากการทดสอบ iPod Shuffle ตัวนี้นั้น ต้องยอมรับว่าประทับใจอย่างยิ่งครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูมองว่าเป็นเครื่องเล่นเพลงอย่างเดียว แบบไม่ต้องสนใจฟีเจอร์อื่นๆ แต่อย่างใด ในส่วนของราคาค่าตัวนั้น อาจจะดูแพงไปนิด แต่ผู้เขียนเชื่อว่าสาวก iPod พันธุ์แท้ จะยอมสนับสนุนแน่นอน (รวมถึงคนที่กำลังมองหาเครื่องเล่นเพลงพกพาแบบเพียวๆ อีกด้วย)

จุดเด่น:

- ขนาดเล็กสุดๆ กะทัดรัด เหมาะแก่การพกพา
- วัสดุประกอบตัวเครื่องแข็งแรง ทนทาน
- ฟีเจอร์ที่ช่วยให้รู้ได้ว่าเพลงที่กำลังฟังอยู่เป็นเพลงอะไร
- แบตเตอรี่อึดมาก ใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานร่วมๆ 2 วัน
- คลิปหนีบแข็งแรง แน่นหนาดีมาก
- คุณภาพเสียงสมกับเป็น iPod ตัวจริง

จุดสังเกต:

- หูฟังที่จำเป็นต้องใช้เฉพาะรุ่นเท่านั้น
- ขนาดความจุมีเฉพาะ 4 GB ไม่มีขนาดความจุอื่น
- สายหูฟังสั้นไปนิด
- สายซิงค์ข้อมูลสั่นไปหน่อย
- ราคาสูงเมื่อพอสมควรหากมองว่ามันทำได้เฉพาะการเล่นเพลงอย่างเดียว